วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

# ปลูกไม้มงคลเสริมโชควาสนาตามปีเกิด




  • เกิดปีชวดมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นกล้วย และต้นมะพร้าว

  • เกิดปีฉลูมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นตาล

  • เกิดปีขาลมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นขนุน และต้นรัง

  • เกิดปีเถาะมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นมะพร้าว และต้นงิ้ว

  • เกิดปีมะโรงมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นไผ่, ต้นกัลปพฤกษ์ และต้นงิ้ว

  • เกิดปีมะเส็งมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นไผ่ และต้นรัง

  • เกิดมีมะเมียมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นกล้วย และต้นตะเคียน

  • เกิดปีมะแมมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นไผ่, ต้นปาริชาติ และต้นทองหลาง

  • เกิดปีวอกมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นขนุน

  • เกิดปีระกามิ่งขวัญอยู่ที่ต้นไผ่, ต้นยาง และต้นฝ้าย

  • เกิดปีจอมิ่งขวัญอยู่ที่ต้นบัวบก และต้นสำโรง

  • เกิดปีกุน มิ่งขวัญอยู่ที่กอบัวหลวง และต้นบัวบก

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

# ไอเดีย..สวนขนาดเล็กๆ

กระถาง...วางก็ได้ แขวนก็ดีกระถางสารพัดแบบวางได้สารพัดที่ มีขนาดทั้งเล็กและใหญ่ให้เลือกตามใจชอบ จะนำไปจัดวางตามมุมเล็กๆอย่างบนบันไดทางเดิน หรือชานพักหน้าต่าง ก็ช่วยเพิ่มมุมมองและสีสันให้พื้นที่นั้นๆได้ สำหรับการเลือกกระถางนั้นไม่มีหลักตายตัว แต่ถ้าใช้ภายในบ้านอาจเลือกวัสดุที่มีรายละเอียดและสวยงาม เช่น เซรามิค แก้ว ส่วนนอกบ้านใช้วัสดุปูนเปลือย หรือกระถางดินเผา ก็จะแข็งแรง ทนแดดทนฝนดีกว่า

พุ่มห้อย...ลอยละล่องอีกไอเดียที่น่าสนใจก็คือการแขวนต้นไม้บนระแนงหลังคาหรือกันสาดริมระเบียง เลือกฟอร์มของไม้ที่มีเส้นสายสวยงาม นอกจากนี้อาจนำหลักการตกแต่งภายในแบบง่ายๆมาปรับใช้ก็ยังได้ โดยจัดวางองค์ประกอบให้มีจุดเด่น จุดรอง เช่น เลือกวางรูปปั้นเป็นจุดเด่น ใช้ไม้คลุมดินอย่างอาซาเลียวางเพิ่มเป็นสีสันบนพื้น จากนั้นใช้ไม้ทรงสูง เช่น เฟินกีบแรดฟิลิปปินส์ เฟินเขากวางใบตั้ง และสร้อยนางกรองห้อยต่ำลงมาให้อยู่ในระดับกลาง ส่วนระดับสูงสุดขององค์ประกอบใช้เฟินหางสิงห์ที่มีใบห้อยลงมาเป็นกลุ่ม เพื่อให้เกิดระยะนำสายตา ดึงความสนใจเข้าไปสู่สวนเล็กๆ แต่มีลวดลายแม้พื้นที่จะมีขนาดเล็กแต่เราสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้มุมเล็กๆนี้ได้ด้วยการปูวัสดุปูพื้นที่เล่นลวดลายต่างกัน บางส่วนใช้เส้นโค้งมาช่วยลดทอนขอบมุม หรืออาจใช้รูปทรงฟรีฟอร์มในส่วนที่ต้องการแบ่งสัดส่วนวางต้นไม้ นอกจากนี้การใช้วัสดุปูพื้นที่มีผิวสัมผัสต่างกัน ยังทำให้พื้นที่เล็กๆนี้มีลูกเล่นไม่น่าเบื่อ และช่วยให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นด้วย
ศิลปะบนผนังและกระถางต้นไม้ ถ้าเบื่อการทาสีบนผนังแบบเดิมๆหรือการประดับรูปแก้เขินบนผนังว่างๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการนำกระถางใบเล็กมาติดบนผนังแทน นอกจากจะดูแปลกตาแล้ว ยังสามารถใช้แทนงานศิลปะติดผนังได้ด้วย ถ้าผนังที่ว่าอยู่ภายในบ้าน ควรเลือกมุมที่สามารถรับแสงได้ในยามกลางวัน สำหรับพรรณไม้นั้นอาจใช้ไม้ในตระกูลสับปะรดสี เช่น ทิลแอนเซีย ไม้รากอากาศซึ่งทนแดดได้ดี ส่วนบนผนังติดไฟดาวน์ไลท์เพื่อเน้นกระถางต้นไม้ให้เด่นขึ้น ซึ่งแสงและเงาที่ตกกระทบบนผนังก็จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์ให้ห้องได้เป็นอย่างดี

นั่งเล่นข้างรั้วให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ เพียงแค่ทำที่นั่งเพิ่มเข้าไปในส่วนริมกำแพงบ้าน และใช้พื้นที่มุมนี้แบบ 3 in 1 ทั้งได้ยินเสียงน้ำจากน้ำตก ได้ชมไม้ดอกสีสด และยังเป็นที่นั่งสบายๆ โดยเลือกใช้วัสดุที่ดูกลมกลืนให้ความรู้สึกสบายตา แต่ถ้าต้องการให้เกิดเป็นจุดเด่น ลองใช้วัสดุที่แตกต่าง เช่น ใช้ไม้หรือปูนสลับกับอิฐมอญ วางเบาะนุ่มน่านั่งเพิ่มอีกนิด เป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้มุมเล็กๆนี้ไม่ถูกลืม
ผนังต้นไม้...สบายตาถ้าอยากได้ธรรมชาติก็ยกธรรมชาติเข้ามาไว้ในบ้านเสียเลย อาจใช้ผนังด้านหนึ่งในห้องน้ำนอกบ้านแทนพื้นดินสำหรับปลูกต้นไม้ โดยใช้โครงเหล็กติดตะแกรงพลาสติก ด้านหลังอัดใยปาล์มหรือใยมะพร้าวให้แน่น แล้วเจาะช่องให้ต้นไม้ออกมาได้ เมื่อต้นไม้โตก็คลุมดินกลายเป็นสวนแนวตั้ง ช่วยเปลี่ยนรูปแบบผนังเดิมๆได้ด้วย

ห้องกระจก...เชื่อมในและนอกบ้าน หลังบ้านหรือข้างบ้านที่แสนแคบ บางทีคิดไม่ออกว่าจะจัดสวนแบบไหนดี ลองเปลี่ยนผนังทึบต่อเติมปรับเป็นห้องกระจก เลือกไม้กระถางฟอร์มเท่วางข้างใน ส่วนข้างรั้วด้านนอกปลูกต้นไม้ให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ มองผ่านกระจกใสเห็นทั้งข้างในและข้างนอก ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551

# ฮวงจุ้ยกับสวนคุณ..

ตำราฮวงจุ้ยมีพูดถึงหลักในการจัดสวนเอาไว้ หลากหลายรูปแบบด้วยกัน และเป็นเรื่อง ที่น่าสนใจไม่น้อย ปัจจุบันคนก็หันมานิยมจัดสวนแต่งบ้านกันอย่างจริงจัง บางบ้านหมด เงินไปกับเรื่องนี้มากโขทีเดียว ลองมาดูกันสิว่า ในทางฮวงจุ้ยพูด ถึงการจัดสวน เอาไว้อย่างไร
1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก การกำหนดพื้นที่สำหรับจัดสวนภายในบริเวณบ้าน ถือเป็นสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา การที่ตำราระบุว่า สวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้า จะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป

2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง สวนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย ต้นไม้ (ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง) ไม่ใช่ปล่อยให้รกรุงรัง กลายเป็นป่ามากกว่าสวน

3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ การตกแต่งสวนโดยมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่าจะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรณีของน้ำตก ที่มีการไหลของน้ำไม่เหมือนอย่างอื่น "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออกนอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้านจะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชคลาภการเงินนั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน
4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย การขุดบ่อน้ำหรือสระน้ำในสวนนั้นสิ่งที่จะต้อง คำนึงถึงก็จะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทาง ฮวงจุ้ย จะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นเหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดีที่สุด
5.ก้อนหิน วางผิดเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงหิน มาตกแต่งสวนต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่เพราะในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มีลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลมก้อนหินที่มีรูก็เป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่ง ในการวางส่วนใหญ่ จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้านหรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน
6.บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่บ้านที่มีขนาดเล็กมีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้านทาวน์เฮาส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่ มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัด ก็คือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย บ้านขนาดเล็กอย่างทาวน์เฮาส์ไม่ควรปลูก ต้นไม่ใหญ่ในบ้าน
7.หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว เพราะหนามที่แหลมคมจะส่งผลกระทบ ต่อคนในบ้านได้ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าต้นไม้อย่าง เฟื่องฟ้า โป๊ยเซียน ที่คนนิยม นำมาปลูกในบ้านทำไมถึงไม่ห้าม ความจริงแล้วไม้หนามอย่างเฟื่องฟ้าหรือโป๊ยเซียน ก็เข้าข่ายเป็นต้นไม้ต้องห้ามเหมือนกัน เพราะมีหนามแหลม เพียงแต่ว่า ชื่อของต้นไม้เป็นมงคลเท่านั้น และต้นเฟื่องฟ้าส่วนใหญ่ จะนิยมปลูก ริมรั้ว หรือ กำแพง ซึ่งกลับเป็นผลดีในแง่ของการป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าบ้าน เหตุผลที่ตำราห้ามเอาไว้อย่างนั้น ก็เพราะหนามแหลมของต้นไม้ อาจจะเกี่ยวคนเดินผ่านไปมาในบ้านได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ นอกจากนี้ เวลาต้นไม้เติบโตเป็น ต้นไม้ใหญ่ จะเคลื่อนย้าย หรือตัดกิ่งของต้นไม้ค่อนข้างจะยากที่จะไม่โดยหนามเกี่ยว

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

# ปูหญ้า..บ้านคุณ





การปูหญ้าโดยสังเขป
ก่อนอื่นใดสำรวจพื้นที่ทั้งหมดว่าต้องการทำอะไรบ้าง เช่น สวนหย่อม ทางเท้า ปลูกและเคลื่อนย้ายต้นไม้ขนาดต่างๆที่มีอยู่หรือต้องการซื้อปลูกเพิ่มเติม
1.ปลูกและเคลื่อนย้ายต้นไม้ขนาดต่างๆก่อนตามตำแหน่งที่ต้องการ
2.ปรับพื้นที่ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปูหญ้าต้องใช้ความละเอียดเป็นพิเศษ มิฉะนั้นอาจต้องมีการรื้อหญ้าทิ้ง แล้วปูใหม่ซ้ำ ควรเก็บเศษวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้างให้หมด ใช้ทรายหยาบหรือทรายขี้เป็ดเกลี่ยจนทั่ว ดูระดับทิศทางการไหลของน้ำให้ไปสู่ทางระบาย ฉีดน้ำให้ทรายเปียกฉ่ำ ใช้ลูกกลิ้งบดอัดทรายจนแน่น หากมีหลุมหรือแอ่งให้เพิ่มทรายเข้าไป และบดอัดอีกจนเรียบที่สุด
3.ทำสวนหย่อม หรือเพิ่มเติมสิ่งอื่นใดที่ต้องการ
4.ปูหญ้าตามชอบ เช่น นวลน้อย มาเลย์เซีย หรือญี่ปุ่น เสร็จแล้วฉีดน้ำให้ชุ่มจนทั่ว ใช้ลูกกลิ้งบดอัดอีกครั้ง เมื่อหญ้าเรียบสวยจนเป็นที่พอใจ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
ระยะ 1-7 วัน ควรรดน้ำให้สนามหญ้าอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

# ไม้นิยม..จัดสวน




ไม้ตระกูลปาล์ม
หลากหลาย ไม้ตระกูลปาล์ม มีให้เลือกสรร นับร้อยสายพันธ์ ราคานั้นจัดอยู่ระดับค่อนข้างสูงพอควร อีกทั้งหลายๆชนิดมีขนาดใหญ่ หากต้องการมีไว้ในครอบครอง ต้องพิจารณางบประมาณและรูปแบบการจัดแต่งก่อน เพราะทั้งค่าต้นไม้ ค่าขนส่งและค่าดำเนินการ รวมแล้วราคาเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว

ไม้ยืนต้นดอกหอม

ไม้ดอกหอม นับวันยิ่งเป็นที่ต้องการของผู้ที่อยากสะสมไว้เป็นสมบัติในบ้านมากขึ้นเป็นลำดับ เพราะบางชนิดเริ่มค่อนข้างหายากขึ้นทุกวัน อย่างเช่น จันทน์กะพ้อ เส้นผ่าศูนย์กลาง 8-10 นิ้ว ราคาซื้อขายกันประมาณถึงแสนบาท บุนนาค เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 นิ้ว ราคาก็เป็นหมื่นขึ้นไป ยิ่ง แก้วเจ้าจอม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว ราคาก็หลายหมื่นเช่นกัน หากไม่อยู่ในแวดวงคงไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงแพงกันขนาดนั้น

ไม้พุ่มดอกหอม
ไม้พุ่มของไทย น่าจับตามอง เพราะบางสายพันธ์เริ่มไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คงมีแต่ นักเลงต้นไม้รุ่นเก่าๆเท่านั้นที่เก็บสะสมไว้ คนขายไม้ บางครั้ง พบไม้ที่คนซื้อต้นไม้ทั่วๆไปไม่เคยรู้จักมาก่อน รู้อยู่แก่ใจว่า หากเก็บไว้ที่สวนก็ขายยาก อาจต้องเลี้ยงเก็บไว้เป็นปี หรือหลายๆปี แต่ก็อดใจที่จะนำมาเก็บไว้ในสวนไม่ได้ ก็คือ ใจมันชอบ ตามประสาคนขายต้นไม้

ไม้น้ำ
ไม้น้ำนั้น ใช่ว่าจะขี้เหร่ เดี๋ยวนี้ชาวต่างประเทศสั่งซื้อ ต้นลำพู ลำแพน ของไทยเราไปใส่กระถางสวยๆ ราคาแพงๆ ตั้งไว้ตามโรงแรม รีสอร์ต ทำเอาราคาแพงลิบลิ่ว แถมสั่งซื้อ จองกันมากมาย คนขายไม้ยังตามไม่ทัน แต่ บัวธรรมดาๆของเราก็ยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่ดี ผลิตกันแทบไม่ทันเชียวล่ะ


ไม้กระแสนิยม
อันนี้เป็นเรื่องของคนทันเหตุการณ์ ตลาดตอนนี้คนซื้อต้นไม้นิยมอะไร คนขาบต้นไม้ก็จัดให้ หลายปีก่อนนั้น ลั่นทมไม่มีคนนิยม ให้กันฟรีๆก็ยังไม่เอา แล้วเป็นอย่างไร เมื่อปีสองปีก่อนนี้ บ้านไหนไม่มีลีลาวดี ก็สุดจะตกยุค บางสายพันธ์ สูงแค่คืบเดียว ราคาเป็นหมื่น พอมาปีนี้ ลีลาวดีขาวพวงสายพันธ์ดั่งเดิมเท่านั้นที่ยังครองใจได้ตลอดไป ส่วนสายพันธ์อื่นๆ ความนิยมก็ลดลงไป
ชวนชมเองนั้นเป็นไม้สุดนิยมอมตะนิรันด์กาลอยู่แล้ว พอเหลืองไต้หวันมาถึงเมืองไทย ก็ไปซื้อกันถึงบันไดเครื่องบิน เชียวแหละ

ไม้เศรษฐกิจนิยม
เป็นความโชคดีของเรา คนไทยสามารถผลิตไม้มากมายหลายๆชนิดประดับประดาตามถนนหนทางต่างๆ ตามหมู่บ้านจัดสรร โรงงาน และทั่วๆไปอีกหลายแหล่ ราคาก็ถูก เป็นที่นิยม ดังนั้น จึงเป็นที่เห็นกันโดยทั่วไป เช่น พญาสัตบรรณ เหลืองปรีดียาธร ปีบขาว เป็ดน้ำ ขี้เหล็ก คูน ตะแบก สะเดา ฯลฯ ส่วนที่ไม่น้อยหน้า ก็เป็นต้นโมก ทั้งโมกซ้อน โมกพวง มีปลูกกันทุกบ้าน

ไม้มงคล
ขาดไม่ได้ สำหรับคนไทยเรา กับไม้มงคล
-ไม้ราชพฤกษ์
ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
-ไม้ขนุน
หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน
-ไม้ชัยพฤกษ์
การมีโชคชัย ชัยชนะ
-ไม้ทองหลางลาย
การมีเงิน มีทอง
-ไผ่สีสุก
มีความสุข
-ไม้ทรงบาดาล
ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรง
-ไม้สัก
ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ
-ไม้พะยูง
การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
-ไม้กันเกรา
ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ


ไม้ฉ่ำน้ำ
ไม้สายพันธ์นี้ เป็นที่ขาดกันแทบไม่ได้ในการจัดสวน เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความชุ่มเย็น ณ มุมหนึ่งของบ้านทีเดียว สวนใหญ่จะประกอบไปด้วยไม้หน่อ เช่น ซิกก้า เฮลิโคเนีย เบิร์ด กล้วยชนิดต่างๆ กล้วยพัด กล้วยผา ไผ่เลี้ยง ไผ่สีสุก ไผ่น้ำเต้า ดาหลา หมากเหลือง หมากเขียว รวมทั้งเฟิร์นนานาชนิด

ไม้ดอกสวย

เป็นเรื่องที่ธรรมชาติให้เรามา ต้นไม้กับมนุษย์ขาดกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมา เราจึงพบกับไม้หลากหลายสายพันธ์ซึ่งมีความสวยงามและมีสเน่ห์แตกต่างๆกันไป เป็นความลึกล้ำแห่งธรรมชาติที่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ทำไมต้นไม้ต่างๆจึงผลิดอก ออกผล มาได้อย่างน่าอัศจรรย์เสียยิ่งนัก ลองคิดกันเล่นๆดูว่า หากไม่มีต้นไม้เหล่านี้ นอกจากมีแต่ความแห้งแล้งโดยทั่วไปแล้ว เราอาจยังขาดสิ่งอื่นๆอีกมากมาย เพราะมนุษย์ ทำอย่างที่ต้นไม้ทำไม่ได้เลย

ไม้ทำรั้ว
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างน่าเสียดาย เพราะความเจริญทางวัตถุ จึงไม่เหลือให้เห็นรั้วที่กินได้ในสังคมเมือง อาจเป็นการพัฒนาตามสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ดังนั้น เราจึงมีรั้วบ้านที่เป็นคอนกรีตหรือโลหะชั้นหนึ่ง แล้วก็มีรั้วต้นไม้อีกชั้นหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาไปเอง ซึ่งอย่างไรๆต้นไม้ก็ยังเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอยู่ดี ต้นไม้มากมายที่นำมาทำรั้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็แล้วแต่ความต้องการในประโยชน์ที่ต้องการได้รับ อาจตกแต่งเพื่อความสวยงาม ก็เลือกหาต้นไม้ที่มีสีสรร หากเพื่อความร่มเย็นก็เลือกที่ใบเขียวครึ้ม แต่จะอย่างไร ต้นไม้ก็ทำให้บ้าน่าอยู่ อยู่ดี

ไม้หายาก
แปลก หรือว่า ไม่แปลก ที่ต้นไม้หลายชนิด ไปที่ไหนก็เจอ แต่ที่ต้องแปลกแน่ๆ ที่เจอต้นไม้ที่ใครส่วนใหญ่ก็ไม่เจอมาก่อน หากคนชอบต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นคนขายหรือคนซื้อต้นไม้ก็ตามพบเห็น ก็คงอดใจไม่ได้ที่อยากได้ไว้เป็นเจ้าของ บอกกันเลยว่า มีต้นไม้ของเรามากมายอาจสูญพันธ์เพราะขาดการอนุรักษ์ไว้ เพราะฉะนั้นหากเจอต้นไม้ที่ว่าเมื่อใด ก็ควรเก็บไว้ประดับบ้านบ้าง

ไม้ประดิษฐ์
เป็นความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมกันมากในการจัดสวนหย่อม เชื่อว่า สไตล์ของการจัดสวนรูปแบบนี้เป็นมุมมองให้เกิดจินตนาการในการพัฒนาความคิดของผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ความรู้สึกอยากสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้เองจากการที่ได้เห็น

# ไม้มงคลกับราศีเกิด..

ราศีมังกร16 ม.ค.–15 ก.พ.
ชาวราศีมังกรเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเป็นผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักอิสระไม่ชอบให้ใครบงการ ชาวราศีมังกรเป็นนักต่อสู้ แสวงหา และเป็นนักผจญภัย เนื่องจากชีวิตในวัยเด็กต้องดิ้นรนต่อสู้ คนมังกรจึงเป็นคนเก่ง ขยันขันแข็ง อดทน และเฉลียวฉลาด



ไม้มงคลที่ชาวราศีมังกรควรปลูกคือ แก้ว วาสนา โป๊ยเซียน และกุหลาบ เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา ให้กับตนเอง และเพื่อเสริมความมั่นคงแก่ลูกหลาน นอกจากนี้แล้วยังมีไม้มงคลเพื่อเสริมดวงชะตาให้กับผู้ที่เกิดราศีมังกร คือ ไผ่ชึ่งแสดงถึงความอดทนความเป็นนักสู้ ราชพฤกษ์ดอกสีเหลืองของราชพฤกษ์เปรียบได้กับความรุ่งเรืองดั่งทอง


ราศีกุมภ์16 ก.พ.-15 มี.ค.
ชาวราศีกุมภ์ เป็นผู้ที่มีพลังความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ สามารถทำงานได้ในทุกสถานที่ ทุกสถานะการณ์และทุกเวลา ชอบความเป็นอิสระ และมักจะรำคาญกับคนรอบข้างที่จู้จี้ขี้บ่น หรือชอบบงการ



สำหรับชาวราศีกุมภ์แล้วควรปลูกต้นเข็ม เฟื้องฟ้า หรือบอนไซ ไว้บริเวณสวนหน้าบ้าน โรงงาน หรือร้านค้าของตน เพื่อเป็นศิริมงคลให้เกิดความมั่นคั่ง รุ่งเรือง และมีชีวิตที่ยืนยาว เข็ม เพื่อเสริมพลังความฉลาดเฉียบแหลมของผู้เกิดราศีกุมภ์ เฟื่องฟ้า เป็นพรรณไม้ที่สามารถสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น และเมื่อดอกเฟื้องฟ้าบาน เชื่อว่าจะแสดงถึงชีวิตที่สดใสเบิกบาน สว่าง รุ่งเรือง และความก้าวไกลแห่งชีวิต บอนไซ แสดงถึงความแข็งแกร่ง อดทน สามารถทนอยู่ได้ทุกที่ ทุกสถานะการณ์ สมกับเป็นพรรณไม้ของชาวราศีกุมภ์



ราศีมีน16 มี.ค.–15 เม.ย.

อุปนิสัยของชาวราศีมีน ถือได้ว่าเป็นผู้มีความเป็นอัจฉริยะ มีความคิดและมีสติปัญญาที่ดี เป็นผู้มีพลัง มีความทะเยอทะยาน ดิ้นรน และก้าวไปสู่ความสำเร็จ ชาวราศีมีน มีอุปนิสัยอ่อนโยนและเป็นผู้มีน้ำใจโอบอ้อมอารี



ไม้ที่ช่วยเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง และให้โชคลาภกับผู้เกิดราศีมีน คือ กล้วยไม้ คนโบราณเชื่อว่า กล้วยไม้ จะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม เหมาะกับผู้ปลูกที่มีอุปนิสัยเยือกเย็นอ่อนโยน เฟื่องฟ้าแสดงถึงชีวิตที่รุ่งเรือง สดใสเบิกบาน ต้นวาสนา ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง ถือเป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าสามารถปลูกได้สวยงามและออกดอก เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภ ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ดังหวัง ส่วนไม้ที่ให้พลังอำนาจแก่ชาวราศีมีน เช่น โมก กล้วย มะม่วง จะช่วยเสริมบารมีคุ้มครองบริวารและลูกหลานเช่นกัน



ราศีเมษ16 เม.ย.–15 พ.ค.
อุปนิสัยของผู้เกิดราศีเมษ คือเป็นผู้มีความกระตือรือร้น ทะเยอทะยาน เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง กล้าคิดกล้าตัดสินใจ ทำงานก้าวหน้า จะประสบความสำเร็จในชีวิตแน่นอน เมื่อพบอุปสรรคมักแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ชาวราศีเมษเป็นผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว และชอบเสี่ยง ชอบผจญภัย



มะยม และ มะขาม เป็นไม้มงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดราศีเมษ ต้นไม้ทั้งสองนี้จะเป็นพลังช่วยหนุนให้ชาวราศีเมษประสบความสำเร็จในชีวิต และใหน้าที่การงาน มะยม ปลูกแล้วจะทำให้มีคนนิยมชมชอบ มีเมตตามหานิยม สำหรับมะขามจะทำให้มีแต่ผู้คนเกรงขาม ให้ความนับถือ นอกจากนี้ยังมีต้นเฟื้องฟ้าที่จะทำให้ชาวราศีเมษมีชีวิตที่รุ่งเรือง สว่างไสว และสดใสเบิกบาน



ราศีพฤษภ16 พ.ค.–15 มิ.ย.
ชาวราศีพฤษภ เป็นผู้มีความตั้งใจในการทำงานสูง มีความจริงใจ และมีมิตรภาพที่ดี มีจิตใจกว้างขวาง ยินดีช่วยเหลือเมื่อมีผู้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือด้วยวาจาที่อ่อนหวาน พื้นดวงจะไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรโลดโผนมากนัก


ต้นไม้มงคล ที่ชาวราศีพฤษภควรปลูกที่บ้าน โรงงาน หรือร้านค้า คือ โมก ดอกสีขาวของโมกจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์สดใส และโบราณยังเชื่อว่าต้นโมกสามารถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งปวงจากภายนอก และควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านและควรปลูกในวันเสาร์ แก้ว จะทำให้มีโชคมีลาภ คนในบ้านจะมีความดี มีคุณค่าสูง ควรปลูกทางทิศ ตะวันออกและควรปลูกในวันพุธ ส้มโอ เป็นต้นไม้ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์


ราศีเมถุน16 มิ.ย.-15

คนราศีเมถุน เป็นคนขี้เบื่อไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ชอบสิ่งใหม่ๆ จึงรักการเดินทางท่องเที่ยว ดิ้นรน บวกกับเป็นคนที่มีพลังในการสร้างสรรค์สูง แต่ขาดความรอบคอบ จึงมักจะเป็นผู้นำเพราะหากเมื่อใดที่เป็นผู้ตามจะรู้สึกอึดอัด ชอบชีวิตธรรมชาติและรักความยุติธรรม


ต้นไม้มงคลสำหรับชาวราศีเมถุน คือ โมกจะทำให้เกิดความสุข ความบริสุทธิ์ และความสดใส เข็ม ควรปลูกเป็นร่องตรงประตูบ้าน หรือสองฝากทางเข้าบ้านจะทำให้ชะตารุ่งเรือง อุปสรรคและปัญหาไม่กล้ำกลาย ทับทิม เพื่อให้เกิดความสงบร่มเย็นของชีวิต โป๊ยเซียน ถือเป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าปลูกออกดอกได้มากกว่า 8 ดอก ผู้ปลูกและคนในบ้านจะมีโชคลาภ และยังเชื่อว่าโป๊ยเซียนช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข กุหลาบ หากปลูกไว้ประจำบ้าน จะเกิดความสง่าภาคภูมิ จะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่งชีวิตที่สูง

ราศีกรกฎ16 ก.ค.–15 ส.ค.
ผู้ที่เกิดราศีกรกฎ มักเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร และอดทนเป็นที่หนึ่ง มีความกระตือรือร้น ดูภายนอกเหมือนเป็นคนหยิ่งไว้ตัว แต่จริงๆ แล้วชาวราศีกรกฎเป็นคนน่ารักน่าคบ กว่าบรรดาราศีอื่นๆ แม้จะเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น และเจ้าระเบียบอยู่บ้าง


กล้วยไม้ เป็นไม้ดอกที่ให้โชคลาภและเหมาะกับผู้ปลูกที่มีอุปนิสัยเยือกเย็นอ่อนโยน เช่นชาวราศีกรกฎ กล้วยไม้จะออกดอกต้องได้รับการดูแลด้วยความหมั่นเพียร ดอกที่สวยงาม จะทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็น และเชื่อว่าจะ ทำให้คนในบ้านมีจริยธรรม ชมพู่ ช่วยให้อุดมทรัพย์ มั่งมีเงินทอง วาสนา ทำให้ผู้ปลูกมีบุญ มีโชควาสนาที่ประเสริฐ เกิดความสุข สมหวัง พลูด่าง นำพามาซึ่งความร่มเย็น เป็นสุข เฟื่องฟ้าจะช่วยเสริมให้ชีวิตสดใสเบิกบาน

ราศีสิงห์16 ส.ค.–15 ก.ย.

อุปนิสัยของชาวราศีสิงห์ชอบสิ่งที่ท้าทายความสามารถ สู้ปัญหา มีความเข้มแข็งและไม่ชอบให้ใครข่ม ชอบทำอะไรออกหน้า เป็นผู้นำเสมอ ชาวราศีสิงห์เป็นคนที่มีบุคลิกภาพโดดเด่น สง่างาม หลงตัวเอง เอาแต่ใจ มีอารมณ์แปรปรวนไม่ค่อยแน่นอน


ชาวราศีสิงห์ควรปลูก ขนุน ซึ่งนับได้ว่าเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย ตามโบราณเชื่อกันว่า การปลูกต้นขนุนในบริเวณบ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง มีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ จำปี ดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ โป๊ยเซียน เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง เป็นไม้เสี่ยงทาย เชื่อว่าถ้าออกดอก 8 ดอกแล้วจะทำให้มีโชคลาภ กล้วยไม้ ดอกสวยของกล้วยไม้ย่อมเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น จึงถือเคล็ดที่ว่าการปลูกกล้วยไม้จะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป

ราศีกันย์16 ก.ย.–15 ต.ค.
มีพลังแข็งแรงในตนเองแม้จะพบกับอุปสรรคล้มลุกคลุกคลานหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็สามารถยืนหยัดขึ้นได้ด้วยตนเองคือจุดเด่นของชาวราศีกันย์ นอกจากนี้อุปนิสัยของชาวเราศีกันย์เป็นคนเจ้าระเบียบ มีความจำดี และช่างสังเกต


ต้นไม้ที่เป็นมงคลกับชาวราศีกันย์คือ สนฉัตร ทำให้มีเกียรติและความสง่า ได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไป ควรปลูกทางทิศเหนือและปลูกในวันเสาร์เพื่อเป็นศิริมงคล ราชพฤกษ์ ปลูกไว้จะช่วยเสริมให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและบารมี เฟื้องฟ้าทำให้เกิดความสดใส เบิกบาน มีชีวิตที่เฟื่องฟู โป๊ยเซียนจะนำมาซึ่งโชคลาภ ขนุน เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย การปลูกต้นขนุนบริเวณบ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือช่วยเหลือ ขนุนจึงเหมาะกับผู้ที่เกิดราศีกันย์ มะยม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมชมชอบนับหน้าถือตา

ราศีตุลย์16 ต.ค.–15 พ.ย.

อุปนิสัยของผู้ที่เกิดราศีตุลย์ เป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง เจ้าหลักการ มีเหตุมีผล ตัดสินใจช้าเพราะมักจะพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ ชาวราศีตุลย์เป็นผู้ที่มีพลังเข็มแข็งและ มีความรับผิดชอบสูง



ไม้มงคลที่ผู้เกิดราศีตุลย์ ควรปลูกไว้ประจำบ้านคือ หมากแดง ปาล์ม พลูด่าง โกสน ปลูกไว้จะช่วยเสริมให้มีบุญบารมี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข จำปี ดอกสีขาวบริสุทธิ์มีกลิ่นหอม จะทำให้ชีวิตสดใสการงานก้าวหน้าไปในทางที่ถูกที่ควร มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ จำปา ดอกไม้ที่ใช้แสดงถึงความรักมาแต่โบราณ การปลูกจำปาก็เพื่อแสดงถึงความรักต่อผู้อื่นและเพื่อให้มีแต่คนรัก เฟิร์นข้าหลวง จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก


ราศีพิจิก16 พ.ย.–15 ธ.ค.
ในวัยเยาว์ชาวราศีพิจิกจะเป็นคนลำบากมาก่อน แต่เมื่อเติบโตจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความสามารถ ชอบความท้าทาย และไม่ยอมแพ้ต่อใครหรือสิ่งใดง่ายๆ เป็นคนอารมณ์แปรปรวน บางทีก็ใจเย็นดี แต่บางทีก็ใจร้อนมาก เป็นคนมีจิตใจดี มีความเมตตาสูง


ต้นไม้ที่เป็นมงคลแก่ผู้ที่เกิดราศีพิจิก ได้แก่ พวงแสด ปาล์ม เฟื่องฟ้า แสดงถึงชีวิตที่สว่างไสวรุ่งเรือง สดใสเบิกบาน เบญจมาศ ช่วยให้รุ่งเรืองมั่นคง ขนุน ช่วยให้เกิดความรุ่งเรืองมั่นคง เป็นไม้มงคลแต่โบราณ เชื่อกันว่า การปลูกต้นขนุนในบริเวณบ้านจะช่วยหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ ว่านสี่ทิศ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ต่างถิ่น ในทิศใดก็จะแคล้วคลาด ปลอดภัย และมีแต่ผู้ให้ความช่วยเหลือ


ราศีธนู16 ธ.ค.–15 ม.ค.
อุปนิสัยของชาวราศีธนู เป็นผู้ที่มีเชื่อมั่นในตัวเองสูง ดื้อรั้น มีพลังแห่งความแข็งแกร่ง มีความสามารถและมองการณ์ไกล จึงทำให้สร้างฐานะได้ด้วยตัวเอง ทุกย่างก้าวในชีวิตจะมั่นใจว่าต้องได้มาด้วยชัยชนะ ชอบที่จะมีชื่อเสียง เกียรติยศ มีโลกทัศน์ที่ดี และมองโลกในแง่ดี



ไม้มงคล ไม้ที่ช่วยเสริมมงคลชีวิตให้ชาวราศีธนูคือ บัว บ้านใดปลูกบัว จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เบิกบาน ทำให้คนในครอบครัวมีความห่วงใยผูกพันธ์กัน เฟิร์นข้าหลวง จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก แก้ว ช่วยกระจายอุปสรรคปัญหาออกไปจากชีวิต นอกจากนี้ยังมี พลูด่าง และ โป๊ยเซียน จะช่วยเสริมโชคลาภแก่ชาวราศีธนูอีกด้วย


เรื่อง "ไม้มงคลกับราศีเกิด" นี้ รวบรวมจากประสบการณ์และแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง จุดประสงค์ของการจัดทำก็เพื่อนำเสนอความหลากหลายและแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับต้นไม้ที่ผูกพันธ์กับมนุษย์ตามความเชื่อแต่โบราณ การจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อเฉพาะบุคคล แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้จัดทำเชื่ออย่างที่สุดคือ ต้นไม้ทุกชนิดให้คุณและเป็นมงคลแก่ผู้ปลูกเลี้ยงทั้งสิ้น.....

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

# การดูแลรักษาสวนถาด




สวนถาด คือ กลุ่มของต้นไม้ซึ่งมาจัดอยู่รวมกันควรเป็นพันธุ์ไม้ประเภทเดียวกัน คือต้องการ แสง น้ำ และดินปลูก ตลอดจนสภาพแวดล้อมอื่นๆ ใกล้เคียงกัน จึงจะดูแลสวนถาดทั้งภาชนะหรือกระเช้านี้ได้ง่าย ขอแยกตามกลุ่มของพันธุ์ไม้ดังนี้กลุ่มไม้ที่ชอบแสงจัด ได้แก่




1. กลุ่มไม้ที่ชอบแสงจัด-ไม้ดอกล้มลุก พืชสวนครัว ควรจัดวางไว้ในที่ได้รับแสงตลอดวันหรืออย่างน้อยครึ่งวัน ภาชนะต้องมีรูระบายน้ำดี รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรืออาจเพิ่มรอบเย็นอีกครั้ง ถ้าสังเกตว่าดอกหรือใบมีอาการสลดเหี่ยวเฉาอาจใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม ถ้าไม่ได้ใส่ไว้แต่แรกจัด ควรเป็นปุ๋ยหมัก ถ้าเป็นปุ๋ยเคมีให้ใส่เพียงเล็กน้อย เพราะในสวนถาดมักมีเนื้อดินน้อย ปุ๋ยเคมีที่มากเกินไปจะทำให้ดินเค็ม ต้นไม้อาจเฉาหรือตายได้ส่วนปุ๋ยพวกปลดปล่อยช้ามักมีอายุนานอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป เติมเมื่อครบอายุการใช้งาน ควรตัดแต่งใบที่เหี่ยวเฉาแก่เหลือง รวมทั้งดอกโรยทิ้งบ่อยๆ *ไม้น้ำ ก็ชอบแสงจัดเช่นกัน มิฉะนั้นจะไม่ผลิดอก ใบก็อาจเน่า ควรหมั่นเติมน้ำให้เพียงพออยู่เสมอ กำจัดหอยหรือแมลงที่มักมากัดกินใบ โดยหมั่นเก็บออกบ่อยๆ ช้อนตะไคร่น้ำหรือสิ่งสกปรกออกทิ้ง ดูแลให้น้ำใสอยู่เสมอ
2. กลุ่มไม้อวบน้ำ พวกแคคตัส ซัคคิวเลนท์ และไม้ที่มีต้นใบอวบหนา ไม่ชอบน้ำขัง จึงต้องปลูกในภาชนะที่มีรูระบายดินโปร่งซุย ชอบแสงแดด แต่ไม่ควรจัดถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องพรางแสงให้บ้างเหลือราว 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ ควรหลีกเลี่ยงแสงจัดยามเที่ยงวัน ไม้บางชนิดจะใบไหม้ อาจจัดวางสวนถาดกลุ่มนี้ไว้ริมหน้าต่างในบ้าน


3. กลุ่มไม้ที่ชอบแสงรำไร และกล้วยไม้ ไม้กลุ่มนี้ชอบความชุ่มชื้นและแสงไม่จัดนัก อาจตั้งไว้ในบ้านตรงมุมที่มีแสงส่อง ภาชนะปลูกจะมีรูระบายหรือไม่ก็ได้ รดน้ำวันละครั้งก็พอ ถ้าจะใช้ปุ๋ยก็ควรเป็นปุ๋ยพวกปลดปล่อยช้า หรือให้ปุ๋ยน้ำฉีดให้ทางใบเป็นปุ๋ยประเภทเดียวกับที่ฉีดกล้วยไม้นั่นเอง

# การจัดสวนถาด



สวนถาด








คือ
การจัดปลูกต้นไม้ลงในภาชนะขนาดเล็ก ให้เกิดความสวยงาม โดยใช้หลักศิลปะช่วยตกแต่ง สวนถาดต่างจาก บอนไซ คือ บอนไซ เป็นการจัดไม้ชนิดเดียวในกระถาง แต่สวนถาดใช้ต้นไม้กี่ต้นก็ได้ ไม่จำกัด และกี่ชนิดก็ได้




ประโยชน์ของสวนถาด
1. ใช้เป็นของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึกในโอกาสสำคัญ มีราคาถูก และมีอายุยืน กว่าการให้ดอกไม้สด
2. มีคุณค่า ทางด้านจิตใจสูง เกิดความสุขจากการได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

3. ทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว (ไม่รวยแต่สามารถพออยู่พอกินได้)
4. จัดเพื่อการศึกษาด้านการเกษตร เช่นศึกษาการเจริญเติบโตของพืช วิธรขยายพันธุ์ (มีบรรจุในหลักสูตร ชั้นมัธยมต้น)

รูปแบบของการจัดสวนถาด มี 2 ประเภทคือ

1. การจัดปลูกไม้ดอก หรือไม้ใบ รวมกันเพื่อให้เกิดความสวยงามแบบ การจัดแจกันดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง (Combination)

2. การจำลองทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือ จำลองเรื่องราวต่างๆลงในภาชนะขนาดเล็ก (Landscape) เช่นสวนหย่อม ลักษณะป่าเขา ลำธาร



ความรู้พื้นฐานในการจัดสวนถาด ได้แก่ ความรู้ด้านองค์ประกอบศิลป และเรื่องพืชกรรม

1.ความรู้พื้นฐานด้านศิลปะ อาทิเช่น

1.1 เส้นสาย ที่ปรากฎในสวนถาด ได้แก่เส้นของภาชนะรองรับ , ต้นไม้ดอกไม้ ทิวทัศน์ ที่เป็นทางเดิน หากเป็นเส้นตรง หรือเส้นโค้ง จะช่วยสร้างอารมณ์และความรู้สึกที่ผ่อนคลาย รวมทั้งช่วยให้ดูพื้นที่กว้างขึ้น
1.2 รูปทรง ได้แก่รูปทรงของต้นไม้ ภาชนะ และวัสดุตกแต่งให้กลมกลืน

1.3 สี สีเฉดร้อน-เย็น , สีอ่อน-แก่ จะช่วยให้กลมกลืนและ เกิดความแตกต่างเพื่อหนีจากความจำเจ หรืออึดอัด

1.4 ผิวสัมผัส คือการดูภาพรวมของต้นไม้ จากตาจะเห็นความละเอียดความหยาบ ของใบไม้ ดอกไม้ ที่มาจัดรวมกัน เพื่อให้เกิดความแตกต่าง และกลมกลืน

1.5 จังหวะหรือระยะ การวางต้นไม้ และวัสดุ แต่ละชิ้น ให้เกิดความสมดุลย์ไม่ให้เอียงไปทางใดทางหนึ่ง

1.6 สัดส่วน คืดการเปรียบเทียบขนาดของสิ่งของ หรือต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ให้มีสัดส่วนที่สมดุลย์กัน

1.7 ความแตกต่าง เป็นการนำเอาองค์ประกอบที่มีลักษณะต่างกันมารวมกัน เช่นนำความแตกต่างของสี , รูปทรง , ผิงสัมผัส มาจัดรวมกันจะเกิดความงามและกลมกลืน

1.8 จุดสนใจ / จุดเด่น ของสวนถาด สร้างจินตนาการว่าจะโชว์อะไร โดยดูจากต้นไม้ที่มีอยู่ก่อน จากนั้นสร้างจุดรอง จุดเสริมที่กลมกลืน

1.9 ความกลมกลืน เป็นการจัดองค์ประกอบ ทั้งหมดที่พูดถึงให้เกิดความพอเหมาะพอดี ความกลมกลืนมิได้หมายถึง เฉพาะการจัดตังองค์ประกอบที่คล้ายกันหรือเหมือนกันเพียงอย่างเดียว แต่ความกลมกลืน อาจเกิดจากสิ่งที่แตกต่าง หลากหลาย มารวมกันอย่างเหมาะสมสวยงามก็ได้


2.ความรู้ด้านพืชกรรม ในการจัดสวนถาดควรรู้ในเรื่อง

2.1 ชนิดของพันธุ์ไม้ การเลือกพันธุ์ไม้ที่ใช้ในการจัดสวนถาดแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ- ประเภทไม้ในร่ม คือพันธุ์ไม้ที่ต้องการแสงรำไร ไม่ต้องการแสงแดดจัด และอยู่ในที่ค่อนข้างชื้น ได้แก่ เฟินบางชนิด , คล้า- ประเภทไม้กลางแจ้ง คือพันธุ์ไม้ที่ต้องการแสงมาก ต้องอยู่กลางแจ้ง จึงเจริญเติบโต หรือมีดอกเช่น ไม้ดอกเกือบทุกชนิด- ประเภทกลุ่มแคกตัส และไม้อวบน้ำ ซึ่งอยู่ได้ทั้งแดดทนต่อสภาพ แห้งแล้ง และทนทานต่อการอยู่ในร่มได้ดี

2.2 ปัจจัยที่เกิดข้องกับการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่ลักษณะทางพันธุกรรม ของพืชเช่นไม้ยืนต้น ไม้ล้มลุก ไม้เลื้อย ไม้โตเร็ว โตช้า ไม้ใหญ่ ไม้แคระ เป็นต้นนอกจากนั้นยังต้อง คำนึงถึงปัจจัยภายนอก ของต้นไม้ ได้แก่ ดิน แร่ธาตุ น้ำ แสงสว่าง และภูมิอากาศ

2.3 การขยายพันธุ์พืช เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และลดต้นทุน

2.4 การตกแต่งบำรุงรักษา เพื่อยืดอายุ และรักษาความงามของต้นไม้นั้นๆให้คงอยู่ได้นาน อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจในสัจจะธรรมของสวนถาด ที่ต้องมีวันสิ้นสุด เมื่อถึงเวลาที่บางต้นตาย บางต้นโตเกินที่จะบรรจุในภาชนะเล็กๆ บางต้นรูปทรงไม่สวย จะต้องมีการย้ายออกปลูกในกระถางอื่นแทน หรือ จัดปลูก ซ่อมเสริมต่อไป


3. วัสดุอื่นๆที่ใช้ประกอบการจัด เช่น หิน กรวด ทราย ตอไม้ ตุ๊กตาจำลอง การที่เรามีความรู้ในหลักศิลปการจัดและความรู้ด้านพืชกรรม จะเป็ฯแนวทางในการปฏิบัติงาน ช่วยให้เรามั่นใจในการจัดสวนถาดมากขึ้น สามารถวินิจฉัย และวิจารณ์คุณค่าของผลงานได้และช่วยให้เรามีแนวทางในการพัฒนาฝีมือของตนเองอีกด้วย


ขั้นตอนการจัดสวนถาด

1. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ และต้นไม้ให้พร้อม วางไว้รอบข้างตัวเพื่อความสะดวกในการหยิบจับ

2. เตรียมภาชนะ หรือถาด ต้องไม่สกปรก ล้างให้สะอาด

3. หาตำแหน่งวางองค์ประกอบหลัก หรือ จุดเด่น -จุดรอง ทดลองวางต้นไม้ตามจุดต่างๆที่เห็นว่า เหมาะสม และสมดุลย์ เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะพอใจ

4. ใส่วัสดุปลูก - ถาดรองก้น ตามด้วยดินหรือขุยมะพร้าว

5. เริ่มลงมือใส่ต้นไม้ โดยหันด้านที่สวยงามออกทางมุมมองที่สำคัญ ตัดแต่งรูปทรงให้ดูสวยงาม

6. ตบแต่งและเติมผิวดิน ให้เรียบและสวยงาม พร้อมใส่ปุ๋ยละลายช้า

7. กลบผิวดินด้วย หิน กรวด ตกแต่งให้เหมาะสมด้วยวัสดุตกแต่ง

8. รดน้ำด้วยฝักบัวอ่อนๆ ให้ชุ่ม - รดยากันเชื้อรา - รากเน่า


ข้อมูล :
www.baantonkanoon.com